เด็กจะมีพัฒนาการทางร่างกายอย่างรวดเร็วในช่วงที่เป็นทารก และอาจติดโรคได้โดยง่าย เนื่องจากได้รับภูมิคุ้มกันจากมารดาลดลงอย่างมาก ดังนั้นในช่วงนี้ทารกจึงต้องการการดูแลสุขภาพและ การฉีดวัคซีนที่จำเป็นได้ฟรีจากศูนย์การแพทย์สาธารณะ
01การพัฒนาของทารกระยะต่างๆ
(1)น้ำหนัก
3 กก.หลังคลอด 6 กก.เมื่อผ่านไป 6 เดือน และ 9 กก.เมื่อผ่านไปหนึ่งปี
(2)ความสูง
50 ซม.หลังคลอด 75 ซม. เมื่อผ่านไปหนึ่งปี
(3)การพัฒนาทางร่างกาย
การพัฒนาทางร่างกาย 4 เดือน | สามารถควบคุมศีรษะและหันจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งได้ขณะนอน |
5 เดือน | สามารถพลิกตัวได้ (ไปด้านหน้าหรือด้านหลัง) |
6 เดือน | สามารถพลิกตัวไปด้านหน้าด้านหลังได้ และสามารถใช้มือยันตัวขึ้นได้ขณะนอนราบ |
7 เดือน | สามารถนั่งได้โดยมีคนคอยช่วย |
8 เดือน | สามารถนั่งได้โดยไม่ต้องมีคนช่วย |
9 เดือน | คลานได้ |
10 เดือน | สามารถยืนโดยมีคนคอยช่วย หรือจับเกาะอะไรเพื่อช่วยให้ยืนได้ (เก้าอี้ หรือเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ) |
12 เดือน | สามารถเดินโดยมีคนคอยช่วยได้ |
ข้อมูลที่มีประโยชน์
ความขัดแย้งเกี่ยวกับทารก
ในขณะที่เลี้ยงดูทารก คุณอาจเผชิญความขัดแย้งกับสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากมีความเห็นที่ต่างกันเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร ความขัดแย้งดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติสำหรับพ่อตาแม่ยายกับคู่สมรสหนุ่มสาว โปรดพยายามพูดจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งร่วมกับพ่อตาแม่ยายของคุณ
ตัวอย่างของการขัดแย้ง
- ป้อนอาหารเมื่อเด็กหิว ↔ ป้อนอาหารตามเวลาปกติ
- ป้อนอาหารบ่อยๆ แม้เด็กเริ่มอ้วนแล้ว ↔ ป้อนอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
- แบกเด็กพาดหลังเมื่อเด็กร้องไห้ ↔ การแบกเด็กพาดหลังจะทำให้เด็กนิสัยเสีย
- การป้อนนมเย็นจะทำให้ลำไส้แข็งแรงขึ้น ↔ อาหารเย็นจะระคายเคืองลำไส้
02การฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีน เป็นการป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อ โดยมีการฉีดเชื้อโรคติดต่อนั้นๆ เข้าไปในร่างกายของเด็ก ผู้ที่เข้าข่ายที่ต้องรับวัคซีน เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคขึ้นมาได้
(1)การเตรียมความพร้อมก่อนฉีดวัคซีน
- ให้พ่อแม่ที่เข้าใจภาวะสุขภาพของลูกเป็นอย่างดี พามารับการฉีดวัคซีนด้วยตนเองในวันที่ภาวะสุขภาพดี
- อาบน้ำและใส่เสื้อผ้าสะอาดให้เด็ก
- ให้ตรวจสอบสถานพยาบาลที่ทำการฉีดโดยเข้ารับการฉีดในสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้หรือที่ไปบ่อย
- ควรจองล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดของสถานที่และจะไม่ต้องรอนาน
- ให้ดื่มน้ำเปล่าและพักผ่อนให้เพียงพอในขณะที่รอรับการฉีด
- หากมีอาการเจ็บป่วยก่อนทำการฉีดวัคซีนหรือปกติมีโรคประจำตัวหรืออาการใด จะต้องบอกกับเจ้าหน้าที่ก่อน
- ควรจะเข้ารับการฉีดวัคซีนในตอนเช้า เพื่อที่หากมีปัญหา จะได้สามารถกลับมาที่โรงพยาบาลในตอนบ่ายได้
- ตรวจสอบวันเข้ารับการฉีดวัคซีนของเด็กและต้องนำสมุดบันทึกไปด้วยทุกครั้งเพื่อจดบันทึกและจัดการดูแล
- แม้ว่าบันทึกการฉีดวัคซีนนั้น จะมีการบันทึกไว้ในระบบอยู่แล้วแต่ก็ต้องนำไปเพื่อเป็นการตรวจทานซึ่งกันและกัน
- ตรวจสอบตารางการฉีดวัคซีนของเด็ก, เตรียมสมุดบันทึกการฉีดวัคซีน เพื่อจัดการประวัติการฉีดวัคซีน
- หากมีการจัดการบันทึกการฉีดวัคซีนที่ลงทะเบียนไว้ในระบบคอมพิวเตอร์, ให้ตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนที่ไม่มีการลงทะเบียนด้วยคอมพิวเตอร์ด้วย, เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติการฉีดวัคซีนเพื่อการฉีดวัคซีน
(2)ข้อควรระวังหลังฉีดวัคซีน
- หลังฉีดให้เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติที่สถานพยาบาลที่รับการฉีดประมาณ 20~30 นาทีก่อนจึงกลับบ้าน
- ให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอในวันที่ฉีดวัคซีน อย่าหักโหม และในช่วง 2~3 วันหลังจากฉีด ให้ตรวจดูสภาพร่างกายของเด็กอย่างละเอียดว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่
- หลังจากได้รับวัคซีนแล้วอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการปวด บวมแดง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นไข้ คลื่นไส้ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวและจะหายไปได้เองใน 1~2วัน
- หากหลังจากได้รับวัคซีนแล้วมีไข้สูง หายใจลำบาก ลมพิษและวิงเวียนศรีษะ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
- หลังจากได้รับวัคซีนแล้วเด็กมีอาหารร้องงอแงไม่หยุด ไม่กินอาหารหรือมีอาการผิดปกติจากที่เคยเป็น ให้รีบนำตัวไปพบแพทย์โดยเร็ว
- รักษาความสะอาดจุดที่ฉีดวัคซีน
03การให้บริการฉีดวัคซีนพื้นฐานแห่งชาติแก่เด็ก
(1)บริการฉีดวัคซีนพื้นฐานแห่งชาติสำหรับเด็ก
สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการฉีดวัคซีน 18 ชนิด สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี เพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนและปกป้องประชาชนจากโรคเป้าหมายของการฉีดวัคซีนป้องกัน
ผู้มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือ และสถานพยาบาลที่รับผิดชอบ
- กลุ่มเป้าหมาย : เด็กที่มีอายุไม่เกิน 12ปีบริบูรณ์
- สถานพยาบาลที่ฉีดวัคซีนฟรี: สถานีอนามัยทั่วประเทศและสถานพยาบาลที่ได้รับมอบหมาย
ผู้ที่มีเลขประจำตัวประชาชนหรือเลขประจำตัวชาวต่างชาติ(รวมผู้ได้รับการยกเว้น) สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ฟรีที่สถานีอนามัยหรือสถานพยาบาลที่กำหนดใกล้บ้าน ในกรณีของชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศเกาหลี 3 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ได้ลงทะเบียนชาวต่างชาติ สามารถนำเอกสารรับรองที่สามารถยืนยันตนเอง(หรือผู้ปกครอง)ได้(เช่น หนังสือเดินทาง) ไปที่สถานีอนามัยประจำพื้นที่และขอรับการออกหมายเลขระเบียนชั่วคราวสำหรับฉีดวัคซีน จากนั้นจะสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ฟรีที่สถานีอนามัยหรือสถานพยาบาลที่กำหนด
ตารางการฉีดวัคซีนตามวัยสำหรับเด็ก 2020
ตารางการฉีดวัคซีนตามวัยสำหรับเด็ก 2020 ประเภท | โรคที่เกี่ยวข้อง | วัคซีน | จำนวนครั้ง | แรกเกิด | ภายใน 4 สัปดาห์ | 1 เดือน | 2 เดือน | 4 เดือน | 6 เดือน | 12 เดือน | 15 เดือน | 18 เดือน | 19~ 23 เดือน | 24~ 35 เดือน | 4 ขวบ | 6 ขวบ | 11 ขวบ | 12 ขวบ |
การ ฉีดวัค ซีน แห่ง ชาติ 1) | ไวรัสตับอักเสบบี | HepB | 3 | ครั้งที่ 1 | | ครั้งที่ 2 | | | ครั้งที่ 3 | | | | | | | | | |
วัณโรค | BCG(ฉีดใต้ผิวหนัง) | 1 | | ครั้งที่ 1 | | | | | | | | | | | | | |
คอตีบ,บาดทะยัก,ไอกรน | DTaP | 5 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | | ครั้งที่ 4 | | | ครั้งที่ 5 | | |
Tdap/Td | 1 | | | | | | | | | | | | | | ครั้งที่ 6 |
โปลิโอ | IPV | 4 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | | | ครั้งที่ 4 | | |
ฮิบ(Haemophilus influenzae type b) | Hib | 4 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | ครั้งที่ 4 | | | | | | | |
ไวรัสโรตาไวรัส | RV1 | 2 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | | | | | | | | | | |
RV5 | 3 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | | | | | | | | | |
ปอดบวม | PCV | 4 | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | ครั้งที่ 4 | | | | | | | |
PPSV | - | | | | | | | | | | | เฉพาะรายที่มีความเสี่ยงสูง |
หัด, คางทูม, หัดเยอรมัน | MMR | 2 | | | | | | | ครั้งที่ 1 | | | | ครั้งที่ 2 | | |
อีสุกอีใส | VAR | 1 | | | | | | | ครั้งที่ 1 | | | | | | | |
ไวรัสตับ อักเสบ เอ | HepA | 2 | | | | | | | ครั้งที่ 1~2 | | | | | |
ไข้สมอง อักเสบ ญี่ปุ่น | IJEV (วัคซีนเชื้อตาย) | 5 | | | | | | | ครั้งที่ 1~2 | ครั้งที่ 3 | | ครั้งที่ 4 | | ครั้งที่ 5 |
LJEV (วัคซีนเชื้อเป็น) | 2 | | | | | | | ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | | | | |
ติดเชื้อไวรัส HPV | HPV | 2 | | | | | | | | | | | | | | | ครั้งที่ 1~2 |
โรคไข้หวัดใหญ่ | IIV | - | | | | | | ฉีดทุกปี |
การฉีดวัคซีนอื่นๆ 2) | วัณโรค | BCG(ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง) | 1 | | ครั้งที่ 1 | | | | | | | | | | | | | |
- วัคซีน DTaP, IPV, Hib สามารถฉีดเป็นวัคซีนรวม DTaP-IPV หรือ DTaP-IPV/Hib ได้ ตามกำหนดการฉีดวัคซีน
- 1) การฉีดวัคซีนแห่งชาติ : รัฐมีการกำหนดโรคติดเชื้อสำคัญที่ต้องรับการฉีดวัคซีนป้องกัน รวมถึงเกณฑ์และวิธีการรับวัคซีน ด้วยการฉีดวัคซีนภาคบังคับที่ส่งเสริมการฉีดโดยรัฐส่งเสริม (รัฐ 「กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและจัดการโรคติดเชื้อ」) และใช้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานในการจัดงบประมาณและให้การสนับสนุน
2) การฉีดวัคซีนอื่นๆ: มุ่งเป้าไปที่การฉีดวัคซีนโรคติดต่อและโรคติดเชื้ออื่นๆ ที่นอกเหนือจากโรคติดเชื้อที่กำหนด สามารถฉีดวัคซีนได้ที่สถาบันการแพทย์เอกชน มีค่าใช้จ่ายในการฉีด
บริการประชาชน
- ตรวจสอบรายการการฉีดวัคซีน
ที่เว็บไซต์ผู้ช่วยฉีดวัคซีน(https://nip.kdca.go.kr) มีบริการข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และสามารถค้นหารายการฉีดวัคซีนของลูกได้ - จำเป็นต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ผู้ช่วยฉีดวัคซีนและทำการลงทะเบียนข้อมูลบุตร
- ล็อกอินเว็บไซต์ผู้ช่วยฉีดวัคซีน → จัดการการฉีดวัคซีน → จัดการการฉีดวัคซีนของบุตร → ลงทะเบียนข้อมูลลูก → ค้นหารายการฉีดวัคซีนของลูก
- ออกใบรับรองการฉีดวัคซีนฟรี
สามารถออก(ปริ้นท์)ใบรับรองการฉีดวัคซีน(ภาษาเกาหลีและอังกฤษ)ได้ที่เว็บไซต์ผู้ช่วยฉีดวัคซีน - จำเป็นต้องใช้ใบรับรองอิเล็คโทรนิคในการออก
- บริการข้อความแจ้งเตือนการฉีดวัคซีน
เป็นบริการที่จัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้รับบริการสามารถจัดการกำหนดการฉีดวัคซีนครั้งต่อไปได้โดยไม่ลืม ซึ่งหากให้ความยินยอมที่จะรับข้อความทางโทรศัพท์ในการกรอกแบบสอบถามคัดกรองเพื่อฉีดวัคซีน จะสามารถรับบริการข้อความแจ้งเตือนล่วงหน้าและแจ้งวัคซีนที่ตกหล่นตามกำหนดการฉีดวัคซีนได้ หากต้องการบริการข้อความหลากภาษา จะต้องแจ้งขอภาษาที่ต้องการที่สถานีอนามัยหรือสถานพยาบาลที่ฉีดวัคซีน ในกรณีนี้ สามารถลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่จะรับภาษาดังกล่าวเพิ่มเติมได้ - หากไม่ได้เพิ่มเบอร์โทรศัพท์ที่จะรับบริการข้อความหลากภาษา ข้อความจะถูกส่งไปยังเบอร์เดิมที่ลงทะเบียนไว้
- บริการหลายภาษา (12 ภาษา) : : เนปาล, ลาว, รัสเซีย, มองโกเลีย, เวียดนาม, อังกฤษ, อุซเบก, ญี่ปุ่น, จีน, กัมพูชา, ไทย, ฟิลิปปินส์
(2)การป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก
โครงการที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนในการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี เพื่อตรวจสอบมาตรการป้องกันและผลลัพท์ ซึ่งจำเป็นต่อการป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ช่วงแรกคลอดของทารกแรกเกิดที่กำเนิดจากมารดาซึ่งเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ B
- การติดเชื้อช่วงแรกคลอด : การแพร่จากคุณแม่ตั้งครรภ์ไปสู่เด็กระหว่างช่วงระยะก่อนและหลังคลอด(ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 29∼แรกเกิด 1 สัปดาห์)
วิธีเข้าร่วมโครงการหรือขอรับความช่วยเหลือ
- ผู้มีสิทธิ์ : ทารกที่เกิดจากมารดาที่มีผล แอนติเจนของไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) หรืออีแอนติเจน(HBeAg) เป็นบวก
- เพื่อเข้าร่วมโครงการ จะเข้าร่วมได้เมื่อส่งหนังสือแสดงความยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคล ผลการทดสอบโรคไวรัสตับอักเสบบีของสตรีที่คลอดบุตร จากสถาบันที่คลอด
- หากคุณได้สมัครใช้บริการข้อความแจ้งเตือนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบีและคำแนะนำสำหรับกำหนดการตรวจ ตอนกรอกแบบฟอร์มแสดงความยินยอม คุณสามารถรับข้อความได้
- รายละเอียดการสนับสนุน :
- สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับ ①อิมมูโนโกลบูลิน, ②วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B และ ③การตรวจปริมาณแอนติเจนและแอนติบอดี้
- หลังฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B พื้นฐาน(ครั้งที่ 1~3) ให้การสนับสนุนการฉีดซ้ำ(สูงสุด 3 ครั้ง) และตรวจซ้ำ(สูงสุด 2 ครั้ง) ตามผลการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี้เบื้องต้น
กำหนดการดำเนินการป้องกัน
- (หลังคลอดทันที(ภายใน 12 ชม.)) ฉีดอิมมูโนโกลบูลินและฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B ครั้งที่ 1
- ทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยว่า 2 kg จำเป็นต้องฉีดวัคซีนพื้นฐานรวม 4 ครั้ง(0, 1, 2, 6 เดือน)
- (หลังคลอด 1 เดือน) ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B ครั้งที่ 2
- (หลังคลอด 6 เดือน) ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B ครั้งที่ 3
- (หลังคลอด 9~15 เดือน) ตรวจปริมาณแอนติเจนและแอนติบอดี้ไวรัสตับอักเสบ B ครั้งที่ 1
- ทำการฉีดซ้ำและตรวจซ้ำตามผลการตรวจ
(3)โครงการสนับสนุนการฉีดวัคซีนแห่งชาติสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา(HPV)
มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งของช่องคลอดและทวารหนัก, มะเร็งศีรษะและลำคอ มีสาเหตุหลัก*มาจากการติดเชื้อ HPV และสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา(ต่อไปเรียก HPV)
เพื่อคาดหวังให้วัคซีน HPV มีประสิทธิภาพสูงสุด การฉีดวัคซีนให้ครบก่อนมีประสบการณ์ทางเพศซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของการติดเชื้อ HPV จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
สำหรับเยาวชนหญิงวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางกายภาพและทางอารมณ์ รัฐได้มีการสนับสนุนการให้บริการปรึกษาด้านสุขภาพกับผู้เชี่ยวชาญพร้อมกับฉีดวัคซีนป้องกัน HPV เพื่อให้เยาวชนเหล่านั้นสามารถเติบโตเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพดีได้
- 90% ของมะเร็งปากมดลูก, 70% มะเร็งของช่องคลอดและทวารหนัก‧มะเร็งคอหอยส่วนปากเกิดจากการติดเชื้อ HPV
กลุ่มเป้าหมาย
- เยาวชนหญิง อายุ 12~17 ปี
- ผู้หญิงอายุ 18~26 ปี (สนับสนุนตามเกณฑ์รายได้*)
- ผู้มีสิทธิ์รับการคุ้มครองความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐาน และชนชั้นเกือบจน(น้อยกว่า 50% ของฐานรายได้เฉลี่ย) ตาม 「กฎหมายประกันการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานของประชาชน」'
รายละเอียดการสนับสนุน
- (เหมือนกัน) วัคซีนป้องกันไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา(HPV) 2~3 ครั้ง
- จำนวนครั้งในการฉีดแตกต่างกันตามอายุที่ฉีดเข็มแรก : (น้อยกว่า 14 ปี) 2 ครั้ง, (15 ปีขึ้นไป) 3 ครั้ง
- (12 ปี) ให้การปรึกษาปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับการเติบโตช่วงวัยรุ่น, วัยเริ่มมีประจำเดือน
- วัคซีนที่สนับสนุน :
- Gardasil(HPV4), Cervarix (HPV2)
(4) โครงการสนับสนุนการฉีดวัคซีนแห่งชาติสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่
ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนในการฉีดวัคซีน เพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และลดภาระของโรคสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงเมื่อติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ เช่น ผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์, เด็ก
- กลุ่มเป้าหมาย :
- เด็กแรกเกิด 6 เดือน ~ 13 ปี
- รายละเอียดการสนับสนุน :
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 1 ครั้ง
- กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 9 ปี ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นครั้งแรก ต้องเว้นระยะห่างมากกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไปจึงฉีดครั้งที่ 2