หลักสูตรชั้นประถมศึกษามีระยะเวลา 6 ปี โดยจะต้องไปโรงเรียนประถมศึกษาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ในปีถัดจากวันที่อายุครบ 6 ปีบริบูรณ์(นับอายุตามแบบเกาหลีคือ 8 ปี เนื่องจากที่ประเทศเกาหลีจะนับอายุในปีที่เกิดเป็น 1 ปีและนับเป็นอายุ 2 ปีในวันที่ 1 ม.ค. ปีของถัดไป กรณีที่เด็กเกิด วันที่ 31 ธ.ค. 2016 เมื่อถึงวันที่ 1 ม.ค. 2017 ก็จะนับเป็นอายุ 2 ปี) อย่างไรก็ตาม จะสามารถเข้าเรียนในปีถัดจากวันที่อายุครบ 5 หรือ 7 ปีบริบูรณ์ได้ด้วยเช่นกัน
การศึกษาชั้นประถมศึกษาเป็นการศึกษาภาคบังคับซึ่งเรียนฟรี ประชาชนเกาหลีจะต้องส่งบุตรธิดาเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา และจะต้องทำให้สามารถเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาได้ พ่อแม่ซึ่งเป็นประชาชนเกาหลีอาจถูกเรียกเก็บค่าปรับได้หากไม่ส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา
การศึกษาระดับประถมศึกษา มุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังธรรมเนียมปฏิบัติพื้นฐานและความสามารถพื้นฐาน รวมถึงบ่มเพาะอุปนิสัยที่ถูกต้องซึ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ ใน 1 คาบเรียน จะใช้เวลา 40 นาที ซึ่งนักเรียนชั้นปีที่ 1~2 จะได้เรียนภาษาเกาหลี, คณิตศาสตร์, การใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง, การใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด และการใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ส่วนชั้นปีที่ 3~6 จะได้เรียนภาษาเกาหลี, สังคม/จริยธรรม คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์/การลงมือปฏิบัติ, พลศึกษา, ศิลปะ(ดนตรี/ศิลปะ) และภาษาอังกฤษ
ชั้นปีที่ 1~2 | ชั้นปีที่ 3~6 | |
---|---|---|
รายวิชา | รายวิชา(กลุ่ม) | เนื้อหาหลักที่เรียนรู้ |
ภาษาเกาหลี, คณิตศาสตร์, การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง, การดำเนินชีวิตอย่างฉลาด, การดำเนินชีวิตอย่างสนุกสนาน | ภาษาเกาหลี | การฟัง, พูด, อ่าน, เขียน, ไวยากรณ์, วรรณคด |
สังคมศาสตร์/จริยธรรม | (สังคม) การเมือง, กฎหมาย, เศรษฐกิจ, สังคมและวัฒนธรรม, ภูมิศาสตร์, สถานที่และภูมิภาค, สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและชีวิตมนุษย์, มนุษยศาสตร์และชีวิตมนุษย์, โลกที่ยั่งยืน, ประวัติศาสตร์ทั่วไป, ประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์สังคม - เศรษฐกิจ, ความสัมพันธ์ (จริยธรรม)กับตัวเอง, ความสัมพันธ์กับผู้อื่น, ความสัมพันธ์กับสังคมและชุมชน, ความสัมพันธ์ของธรรมชาติและอุตรภาพ | |
คณิตศาสตร | จำนวนและการคำนวณ, เรขาคณิต, การวัด, สูตร, ตัวเลขข้อมูลและความเป็นไปได้ | |
วิทยาศาสตร์/ภาคปฏิบัติ | (วิทยาศาสตร์) การออกกำลังกายและพลังงาน, สสาร, ชีวิต, โลกและอวกาศ, (ภาคปฏิบัติ) การพัฒนามนุษย์และครอบครัว, ชีวิตครอบครัวและความปลอดภัย, การจัดการทรัพยากรและการพึ่งพาตนเอง, การใช้เทคโนโลยี | |
พลศึกษา | สุขภาพ, การลองสิ่งใหม่, การแข่งขัน, การแสดงออก, ความปลอดภัย | |
ศิลปะ (ดนตรี/ศิลปะ) | (ดนตรี) การแสดงออก, ความรู้สึกประทับใจ, นิสัยในชีวิตประจำวัน, (ศิลปะ)ลงปฏิบัติ, การแสดงออก, ความรู้สึกประทับใจ | |
ภาษาอังกฤษ | การฟัง, พูด, อ่าน, เขียน |
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่สร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมนอกเหนือจากหลักสูตรในหนังสือเรียน ประกอบด้วยกิจกรรม 4 ด้าน คือ กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง, กิจกรรมชมรม, กิจกรรมอาสาสมัคร, กิจกรรมเส้นทางอาชีพ (ชั้นปีที่ 1~2 มี 3 ด้าน คือ กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง, กิจกรรมชมรม, กิจกรรมเส้นทางอาชีพ) และสามารถเป็นทางเลือกในการจัดตารางและดำเนินการ ตามนระดับชั้นปี(กลุ่ม) โดยพิจารณาจากระดับการพัฒนาของนักเรียน, เงื่อนไขของโรงเรียน ฯลฯ ได้ ขอบเขตของกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่สร้างสรรค์และกิจกรรมของระดับประถมศึกษามีดังต่อไปนี้
ชั้นปีที่ 1~2 | ||
---|---|---|
ขอบเขต | กิจกรรม | จุดสำคัญ |
กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง |
| บ่มเพาะความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เสถียรภาพทางอารมณ์·จิตใจ และการปรับตัวในช่วงต้นของการเข้าโรงเรียนและช่วงเข้าสู่วัยรุ่น ใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างสนุกสนานและมีประสบการณ์กับกิจกรรมต่างๆ มีประสบการณ์ในการสื่อสาร ผ่านการรวมกลุ่ม เช่น ประชุมการปกครองตนเองของนักเรียน, ประชุมชั้นปี เข้าใจและนำหลักการพื้นฐานของการคิดและตัดสินใจตามระบอบประชาธิปไตยไปปฏิบัติใช้ |
กิจกรรมชมรม |
| แก้ปัญหาในปัจจุบันและอนาคตผ่านความคิดที่สร้างสรรค์และการเชื่อมโยง หาประสบการณ์หลากหลายและมีประสบการณ์จริงกับโปรแกรมวัฒนธรรม, ศิลปะ, กีฬา กิจกรรมและการละเล่นทางร่างกายที่เสริมสร้างชีวิต การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม |
กิจกรรมเส้นทางอาชีพ |
| สร้างกรอบความคิดในด้านบวกต่อตนเอง มีประสบการณ์ในเส้นทางอาชีพเพื่อเข้าใจความสำคัญของงาน สำรวจโลกของอาชีพอันหลากหลาย บ่มเพราะทักษะพื้นฐานในเส้นทางอาชีพ |
ชั้นปีที่ 3~6 | ||
---|---|---|
ขอบเขต | กิจกรรม | จุดสำคัญ |
กิจกรรมอิสระ |
| กิจกรรมเพื่อ การปรับตัวเข้าในช่วงแรกของการเข้าเรียน, กิจกรรมเพื่อการปรับตัวช่วงวัยรุ่น, กิจกรรมธีมต่างๆ เพื่อชีวิตในโรงเรียนที่น่ารื่นรมย์, ฝึกฝนความเข้าใจหลักการพื้นฐานของการตัดสินใจระบอบประชาธิปไตย |
กิจกรรมชมรม |
| กิจกรรมเพื่อค้นพบความสามารถ ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลายและประสบการณ์ทางวัฒนธรรม, กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ประสาทสัมผัสของร่างกายและการฝึกควบคุม, กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรม การให้ความร่วมมือและความสามัคคี ต่างๆ |
กิจกรรม อาสาสมัคร |
| การฝึกฝนและการทำความเข้าใจคุณค่าและความสำคัญของกิจกรรมอาสาสมัคร |
กิจกรรมอาชีพ |
| สร้างแนวคิดเชิงบวกในตัวเอง, ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงาน, สำรวจโลกแห่งอาชีพ, การพัฒนาพื้นฐานอาชีพ ฯลฯ |
การใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย (ประถม 1~2) |
| ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย โดยรู้ว่าในชีวิตประจำวันมีสถานการณ์อันตรายใดบ้างที่ต้องเผชิญ และเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้น |
ขั้นตอนการสมัครเข้าโรงเรียนประถมศึกษามีดังต่อไปนี้
โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐหรือเอกชนเลือกนักเรียนโดยตรงโดยไม่มีขั้นตอนการสมัครเข้าโรงเรียนแบบ ข้างต้น ช่วงเวลาประกาศรับ สมัครของแต่ละโรงเรียนจะแตกต่างกัน ดังนั้น ในกรณีที่ผู้ปกครองต้องการให้เด็กเข้าเรียนใน โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐ หรือเอกชน จึงต้องสอบถามจากทางโรงเรียนโดยตรงถึงการรับสมัคร หรือสมัครออนไลน์ผ่านโฮมเพจของโรงเรียน
สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเข้าโรงเรียนก่อนเกณฑ์หรือเลื่อนการเข้าเรียนอายุสามารถยื่นความจำนงได้ที่ที่ทำการตำบล/กิ่งอำเภอหรือศูนย์บริการประชาชนในท้องที่ที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคมของทุกปี
การเข้าเรียนอาจทำให้เด็กสนุกสนานและตึงเครียดได้ ผู้ปกครองจึงควรส่งเสริมให้เด็กเตรียมความ
พร้อมสำหรับชีวิตในโรงเรียนด้วยความเพลิดเพลิน
สนันสนุนบริการเลี้ยงเด็กและการศึกษาหลังเลิกเรียนแทนพ่อแม่ในเวลานอกเหนือจากคาบเรียนปกติ โดยช่วยการเรียน·กิจกรรมหลังเลิกเรียนและสอนการบ้านของนักเรียนประถม ผ่านชั้นเรียนหลังเลิกเรียน(ห้องเรียนนึลบมประถม), ศูนย์เลี้ยงเด็กในท้องถิ่น, โรงเรียนหลังเลิกเรียนของเยาวชน, ศูนย์ทาฮัมเกทลบม, การเลี้ยงเด็กหลังเลิกเรียน(สิ่งอำนวยความสะดวกดูแลเด็ก) เป็นต้น โดยเริ่มจากเด็กซึ่งเรียนในโรงเรียนประถม กรณีของครอบครัวที่มีสถานะทางการเงินยากลำบาก ก็สามารถขอคำปรึกษาเพื่อใช้บริการหน่วยงานเหล่านี้ฟรี
แผนก | กระทรวงศึกษาธิการ | กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ | กระทรวงความเท่าเทียมกันทางเพศและครอบครัว | ||
---|---|---|---|---|---|
รายชื่อโครงการ | โรงเรียนนึลบม ※ในปี ’24~’25 สนันสนุนในมาตรฐานของชั้นเรียนหลังเลิกเรียนและการดูแลเด็กที่มีอยู่เดิม แก่ชั้นปีที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายรับสมัครโดยเฉพาะด้วยเช่นกัน | ห่วงใยดาฮัมเก | ศูนย์เด็กภูมิภาค | สถาบันดูแลเด็กหลังเลิกเรียน | |
เป้าหมายสนับสนุน | นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีความประสงค์ ※กลุ่มเป้าหมายรับสมัครโดยเฉพาะในแต่ละปี (’24) ประถมปีที่ 1 → (’25) ประถมปีที่ 1~2 → (’26) นักเรียนประถมทั้งหมด | อายุต่ำกว่า 6-12 ปี | ต่ำกว่า 18 | สถาบันดูแลเด็กหลังเลิกเรียน | |
เกณฑ์การสมัคร (รายได้) | นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีความประสงค์ (ไม่มี) | ครอบครัวที่ทำงาน (ไม่มี) | ผู้ด้อยโอกาส (น้อยกว่า 100% ของรายได้เฉลี่ย) | การสนับสนุนดูแลผู้ด้อยโอกาสก่อน | |
ประเภทการสนับสนุน | (’24) โปรแกรมประถม 1 แบบเฉพาะ ให้บริการฟรี 2 ชั่วโมงทุกวัน (’25) ประถมปีที่ 1~2 | ค่าใช้จ่าย (การเข้าร่วมโปรแกรม ต่างๆ ภายใน 100,000 วอน, ค่า ขนมขบเคี้ยวจ่ายแยกต่างหาก) | ฟรี (จ่ายตามรายได้ ภายใน 50,000 วอน) | ฟ | |
เวลา ดำเนินการ | ภาคเรียน | ตอนเช้าก่อนคาบเรียนปกติ, จนถึงเวลาที่ต้องการหลังคาบเรียนปกติ (นานที่สุดถึง 20:00 น.) | 14~19น. | 14~19น. | หลังเลิกเรียน -21: 00 น. |
วันหยุด | อิสระตามเงื่อนไข | 09~18น. | ดำเนินการ 8 ชั่วโมง 12-17 น. | ตามเงื่อนไขส่วนตัว | |
เนื้อหาสนับสนุน | จัดโปรแกรมแบบเฉพาะที่มีคุณภาพ | การดูแลหลังเลิกเรียนการสนับสนุนโปรแกรม ฯลฯ | ให้ความคุ้มครอง, การศึกษา สนับสนุนทางอารมณ์, การเชื่อมต่อกับชุมชน ฯลฯ | กิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้,อาหารกลางวันและการให้คำปรึกษา ฯลฯ |
เว็บไซต์อีเลิร์นนิง ‘อีฮักซึบทอ’ ได้นำเสนอเนื้อหาสนับสนุนหลักสูตรปกติสำหรับการเรียนการสอน นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษา ปีที่ 3 , สื่อการสอนการเรียนรู้, การประเมินบททดสอบ ฯลฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครูอาจารย์จะเปิดชั้นเรียนออนไลน์, นักเรียนสามารถเรียนด้วยตัวเองได้ทุกที่ ด้วยชั้นเรียนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์