ศูนย์โทรศัพท์ Danuri
1577-1366
การโทรให้คำปรึกษาครอบครัว
1577-4206
한국생활안내 정보더하기 사이트로 이동

การศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา

  • Home
  • การศึกษาสำหรับบุตร
  • การศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา

การศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา

หลักสูตรชั้นประถมศึกษามีระยะเวลา 6 ปี โดยจะต้องไปโรงเรียนประถมศึกษาตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ในปีถัดจากวันที่อายุครบ 6 ปีบริบูรณ์(นับอายุตามแบบเกาหลีคือ 8 ปี เนื่องจากที่ประเทศเกาหลีจะนับอายุในปีที่เกิดเป็น 1 ปีและนับเป็นอายุ 2 ปีในวันที่ 1 ม.ค. ปีของถัดไป กรณีที่เด็กเกิด วันที่ 31 ธ.ค. 2016 เมื่อถึงวันที่ 1 ม.ค. 2017 ก็จะนับเป็นอายุ 2 ปี) อย่างไรก็ตาม จะสามารถเข้าเรียนในปีถัดจากวันที่อายุครบ 5 หรือ 7 ปีบริบูรณ์ได้ด้วยเช่นกัน
การศึกษาชั้นประถมศึกษาเป็นการศึกษาภาคบังคับซึ่งเรียนฟรี ประชาชนเกาหลีจะต้องส่งบุตรธิดาเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา และจะต้องทำให้สามารถเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาได้ พ่อแม่ซึ่งเป็นประชาชนเกาหลีอาจถูกเรียกเก็บค่าปรับได้หากไม่ส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา

01เนื้อหาในหลักสูตร

การศึกษาระดับประถมศึกษา มุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังธรรมเนียมปฏิบัติพื้นฐานและความสามารถพื้นฐาน รวมถึงบ่มเพาะอุปนิสัยที่ถูกต้องซึ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ ใน 1 คาบเรียน จะใช้เวลา 40 นาที ซึ่งนักเรียนชั้นปีที่ 1~2 จะได้เรียนภาษาเกาหลี, คณิตศาสตร์, การใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง, การใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด และการใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ส่วนชั้นปีที่ 3~6 จะได้เรียนภาษาเกาหลี, สังคม/จริยธรรม คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์/การลงมือปฏิบัติ, พลศึกษา, ศิลปะ(ดนตรี/ศิลปะ) และภาษาอังกฤษ

รายละเอียดการศึกษา
ชั้นปีที่ 1~2 ชั้นปีที่ 3~6
รายวิชา รายวิชา(กลุ่ม) เนื้อหาหลักที่เรียนรู้
ภาษาเกาหลี,
คณิตศาสตร์,
การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง, การดำเนินชีวิตอย่างฉลาด, การดำเนินชีวิตอย่างสนุกสนาน
ภาษาเกาหลี การฟัง, พูด, อ่าน, เขียน, ไวยากรณ์, วรรณคด
สังคมศาสตร์/จริยธรรม (สังคม) การเมือง, กฎหมาย, เศรษฐกิจ, สังคมและวัฒนธรรม, ภูมิศาสตร์, สถานที่และภูมิภาค, สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและชีวิตมนุษย์, มนุษยศาสตร์และชีวิตมนุษย์, โลกที่ยั่งยืน, ประวัติศาสตร์ทั่วไป, ประวัติศาสตร์การเมืองและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์สังคม - เศรษฐกิจ, ความสัมพันธ์ (จริยธรรม)กับตัวเอง, ความสัมพันธ์กับผู้อื่น, ความสัมพันธ์กับสังคมและชุมชน, ความสัมพันธ์ของธรรมชาติและอุตรภาพ
คณิตศาสตร จำนวนและการคำนวณ, เรขาคณิต, การวัด, สูตร, ตัวเลขข้อมูลและความเป็นไปได้
วิทยาศาสตร์/ภาคปฏิบัติ (วิทยาศาสตร์) การออกกำลังกายและพลังงาน, สสาร, ชีวิต, โลกและอวกาศ,
(ภาคปฏิบัติ) การพัฒนามนุษย์และครอบครัว, ชีวิตครอบครัวและความปลอดภัย, การจัดการทรัพยากรและการพึ่งพาตนเอง, การใช้เทคโนโลยี
พลศึกษา สุขภาพ, การลองสิ่งใหม่, การแข่งขัน, การแสดงออก, ความปลอดภัย
ศิลปะ (ดนตรี/ศิลปะ) (ดนตรี) การแสดงออก, ความรู้สึกประทับใจ, นิสัยในชีวิตประจำวัน, (ศิลปะ)ลงปฏิบัติ, การแสดงออก, ความรู้สึกประทับใจ
ภาษาอังกฤษ การฟัง, พูด, อ่าน, เขียน

02กิจกรรมสร้างประสบการณ์เพื่อความคิดสร้างสรรค์

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่สร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมนอกเหนือจากหลักสูตรในหนังสือเรียน ประกอบด้วยกิจกรรม 4 ด้าน คือ กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง, กิจกรรมชมรม, กิจกรรมอาสาสมัคร, กิจกรรมเส้นทางอาชีพ (ชั้นปีที่ 1~2 มี 3 ด้าน คือ กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง, กิจกรรมชมรม, กิจกรรมเส้นทางอาชีพ) และสามารถเป็นทางเลือกในการจัดตารางและดำเนินการ ตามนระดับชั้นปี(กลุ่ม) โดยพิจารณาจากระดับการพัฒนาของนักเรียน, เงื่อนไขของโรงเรียน ฯลฯ ได้ ขอบเขตของกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่สร้างสรรค์และกิจกรรมของระดับประถมศึกษามีดังต่อไปนี้

1~2학년 창의적 체험활동 표 : 영역, 활동, 운영 중점을 포함한 표입니다.
ชั้นปีที่ 1~2
ขอบเขต กิจกรรม จุดสำคัญ
กิจกรรมบริหารจัดการตนเอง
  • กิจกรรมบริหารตนเอง
  • กิจกรรมจัดการตนเอง
บ่มเพาะความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
เสถียรภาพทางอารมณ์·จิตใจ และการปรับตัวในช่วงต้นของการเข้าโรงเรียนและช่วงเข้าสู่วัยรุ่น
ใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างสนุกสนานและมีประสบการณ์กับกิจกรรมต่างๆ
มีประสบการณ์ในการสื่อสาร ผ่านการรวมกลุ่ม เช่น ประชุมการปกครองตนเองของนักเรียน, ประชุมชั้นปี
เข้าใจและนำหลักการพื้นฐานของการคิดและตัดสินใจตามระบอบประชาธิปไตยไปปฏิบัติใช้
กิจกรรมชมรม
  • วิชาการ·วัฒนธรรมและกิจกรรมยามว่าง
  • กิจกรรมอาสาสมัคร
แก้ปัญหาในปัจจุบันและอนาคตผ่านความคิดที่สร้างสรรค์และการเชื่อมโยง
หาประสบการณ์หลากหลายและมีประสบการณ์จริงกับโปรแกรมวัฒนธรรม, ศิลปะ, กีฬา
กิจกรรมและการละเล่นทางร่างกายที่เสริมสร้างชีวิต
การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมเส้นทางอาชีพ
  • กิจกรรมค้นหาเส้นทางอาชีพในอนาคต
  • กิจกรรมวางแผนอนาคต
  • และลงมือปฎิบัติ
สร้างกรอบความคิดในด้านบวกต่อตนเอง
มีประสบการณ์ในเส้นทางอาชีพเพื่อเข้าใจความสำคัญของงาน
สำรวจโลกของอาชีพอันหลากหลาย
บ่มเพราะทักษะพื้นฐานในเส้นทางอาชีพ
กิจกรรมสร้างประสบการณ์เพื่อความคิดสร้างสรรค์
ชั้นปีที่ 3~6
ขอบเขต กิจกรรม จุดสำคัญ
กิจกรรมอิสระ
  • กิจกรรมทำด้วยตัวเอง∙ปรับตัว
  • กิจกรรมหัวเรื่องสร้างสรรค์ ฯลฯ
กิจกรรมเพื่อ การปรับตัวเข้าในช่วงแรกของการเข้าเรียน, กิจกรรมเพื่อการปรับตัวช่วงวัยรุ่น,
กิจกรรมธีมต่างๆ เพื่อชีวิตในโรงเรียนที่น่ารื่นรมย์, ฝึกฝนความเข้าใจหลักการพื้นฐานของการตัดสินใจระบอบประชาธิปไตย
กิจกรรมชมรม
  • กิจกรรมศิลปะ・กีฬา
  • กิจกรรมวัฒนธรรมการเขียน
  • กิจกรรมฝึกลงมือประดิษฐ์
  • กิจกรรมกลุ่มเยาวชน ฯลฯ
กิจกรรมเพื่อค้นพบความสามารถ ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลายและประสบการณ์ทางวัฒนธรรม, กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ประสาทสัมผัสของร่างกายและการฝึกควบคุม, กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรม การให้ความร่วมมือและความสามัคคี ต่างๆ
กิจกรรม
อาสาสมัคร
  • กิจกรรมช่วยเหลือเพื่อนบ้าน
  • กิจกรรมปกป้องสิ่งแวดล้อม
  • กิจกรรมแคมเปน ฯลฯ
การฝึกฝนและการทำความเข้าใจคุณค่าและความสำคัญของกิจกรรมอาสาสมัคร
กิจกรรมอาชีพ
  • กิจกรรมเข้าใจตัวเอง
  • กิจกรรมค้นหางานอาชีพในอนาคต
  • กิจกรรมวางแผนงานอาชีพในอนาคต ฯลฯ
สร้างแนวคิดเชิงบวกในตัวเอง, ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงาน, สำรวจโลกแห่งอาชีพ, การพัฒนาพื้นฐานอาชีพ ฯลฯ
การใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย (ประถม 1~2)
  • ความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน
  • ความปลอดภัยในการคมนาคม
  • ความปลอดภัยต่อร่างกาย
  • ความปลอดภัยจากอุบัติภัย
ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย โดยรู้ว่าในชีวิตประจำวันมีสถานการณ์อันตรายใดบ้างที่ต้องเผชิญ และเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับสถานการณ์เหล่านั้น

03คำแนะนำในการสมัครเข้าโรงเรียนประถม

(1)ผู้สมัครเข้าเรียน (สำหรับเข้าโรงเรียน)

ผู้สมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาต้องเป็นเด็กที่ในปีนั้นมีอายุครบ 6 ปี นับจากวันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคาของปีนั้นๆ และมีคุณสมบัติเหมาะสมในการสมัครเข้า โรงเรียนประถมศึกษาในเดือนมีนาคมของปีถัดไป
ผู้ที่เลื่อนปฏิบัติตามหน้าที่ในการเข้าเรียนและเด็กที่ไม่ได้สมัครเข้าเรียน (การเข้าเรียน) จากปีก่อนหน้า ยกเว้นเด็กที่เข้าเรียนใน โรงเรียนเนื่องจากสมัครก่อนกำหนด
  • เด็กที่สมัครเข้าเป็นนักเรียนในเกรดหนึ่งประจำปีการศึกษา 2022: เด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2015 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2022

(2)ขั้นตอนการสมัครเข้าโรงเรียนประถมศึกษา

ขั้นตอนการสมัครเข้าโรงเรียนประถมศึกษามีดังต่อไปนี้

  • 다이아그램0601

โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐหรือเอกชนเลือกนักเรียนโดยตรงโดยไม่มีขั้นตอนการสมัครเข้าโรงเรียนแบบ ข้างต้น ช่วงเวลาประกาศรับ สมัครของแต่ละโรงเรียนจะแตกต่างกัน ดังนั้น ในกรณีที่ผู้ปกครองต้องการให้เด็กเข้าเรียนใน โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐ หรือเอกชน จึงต้องสอบถามจากทางโรงเรียนโดยตรงถึงการรับสมัคร หรือสมัครออนไลน์ผ่านโฮมเพจของโรงเรียน

  • โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐอยู่ภายใต้โรงเรียนประถมศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยครู สามารถระบุโรงเรียนเอก ชนได้โดยสอบถามที่สำนักงานให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาใกล้บ้านของท่าน

(3)การสมัครเข้าเรียนล่วงหน้า (และการ) สมัครเข้าเรียนหลังกำหนด

สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกเข้าโรงเรียนก่อนเกณฑ์หรือเลื่อนการเข้าเรียนอายุสามารถยื่นความจำนงได้ที่ที่ทำการตำบล/กิ่งอำเภอหรือศูนย์บริการประชาชนในท้องที่ที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคมของทุกปี

ผู้สมัครเข้าเรียนก่อนกำหนดหรือหลังกำหนด
  • การสมัครล่วงหน้า : เด็กที่มีอายุครบ 5 ปีเต็ม และมีความประสงค์ที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาก่อนกำหนด (เข้าเรียนได้ล่วงหน้า 1 ปี)
    • นอกเหนือจากข้อมูลที่ระบุเอาไว้ข้างต้นแล้ว เด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2016 ถึงวันที่ 12 ธ.ค. 2016 ก็มีสิทธิ์สมัครเป็นนักเรียนเกรดหนึ่งในปีการศึกษา 2022 นี้ด้วย
  • การสมัครล่าช้า : นักเรียนที่มีอายุครบ 6 ปีเต็ม และมีความประสงค์ที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาล่าช้าหนึ่งปี
    • ผู้ปกครองมีสิทธิ์เลื่อนการส่งลูกไปโรงเรียนในเกรดหนึ่งได้หนึ่งปีสำหรับเด็กที่เกิดในปี 2015
  • สามารถเลือกให้เด็กเข้าเรียนก่อนกำหนดหรือหลังกำหนดได้ตามดุลยพินิจของผู้ปกครอง

(4)การเข้ารับการศึกษาสำหรับเด็กที่มีปัญหาในภาคเรียนปกติ

ประเทศเกาหลีอนุญาตให้เด็กทุกคนที่อายุถึงเกณฑ์มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษาได้โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติและประเภทวีซ่า
การสมัครเข้าเรียนสามารถทำได้โดยนำใบรับรองการเดินทางเข้าออกประเทศหรือใบรับรองการลงทะเบียนคนต่างด้าวพร้อมกับใบรับรองการศึกษาไปยื่นความจำนงต่อผู้อำนวยการโรงเรียนประถมในท้องที่ที่ตนพักอาศัย
  • สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกยื่นใบรับรองการเดินทางเข้าออกประเทศหรือใบรับรองการลงทะเบียนคนต่างด้าว สามารถยื่นหลักฐานยืนยันการพำนักอาศัย เช่น สัญญาเช่าบ้าน, ใบรับรองการพำนักจากเพื่อนบ้าน ฯลฯ แทนได้
  • ใบรับรองการศึกษา : ใบประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษา, ใบรับรองสถานะนักเรียน, ใบรับรองผลการเรียน เป็นต้น
  • ได้มีการจัดพิมพ์คู่มือ ‘การส่งลูกเข้าโรงเรียน’ ใน 12 ภาษา เพื่อช่วยให้ครอบครัวหลากวัฒนธรรมสามารถเข้าใจขั้นตอนการย้ายโรงเรียนและการส่งลูกเข้าโรงเรียนได้ดียิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดคู่มือดังกล่าวได้จากเว็บพอร์ทัลศูนย์การศึกษาหลากวัฒนธรรม(www.edu4mc.or.kr) หรือสอบถามได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือครอบครัวหลากวัฒนธรรม

04เตรียมตัวไปโรงเรียน

การเข้าเรียนอาจทำให้เด็กสนุกสนานและตึงเครียดได้ ผู้ปกครองจึงควรส่งเสริมให้เด็กเตรียมความ
พร้อมสำหรับชีวิตในโรงเรียนด้วยความเพลิดเพลิน

การแต่งกาย (เสื้อผ้า) :
แต่งกายให้ลูกด้วยเสื้่อผ้าที่สะอาดเรียบร้อยและสบายๆ เหมาะกับการทำกิจกรรมในโรงเรียน
กระเป๋าสะพายหลัง :
กระเป๋าสะพายหลังของเด็กไม่ควรใหญ่เกินไป และควรสวมที่ไหล่ได้ง่าย ควรเตรียมกระเป๋าสะพาย หลังให้ง่ายและเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องสวยงามทันสมัย
ดินสอ กล่องดินสอ และยางลบ :
กล่องดินสอควรเรียบง่ายแทนที่จะยุ่งยาก และไม่ควรใช้กล่องที่มีเครื่องเล่นเกม ช่วงต้นของการศึกษา แนะนำให้ใช้ดินสอ 2B (สีดำ) เตรียมดินสอสองถึงสามแท่งและยางลบหนึ่งอัน สำหรับนักเรียนในชั้นสูงขึ้น แนะนำให้ใช้ดินสอกด
สมุด :
เตรียมสมุดสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 2 เตรียมสมุดจดการบ้านและสมุดทั่วไปล่วงหน้า และจัดหาสมุดอื่นๆ ตามคำแนะนำของครูประจำชั้น (สมุดเขียนตามคำบอก สมุดจดการบ้าน สมุดทั่วไป ฯลฯ)
ดินสอสีและดินสอระบายสี :
ดินสอสีสิบสองสีเหมาะสำหรับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ถุงใส่รองเท้าและรองเท้าแตะที่ใส่อยู่ภายในห้อง :
ถุงใส่รองเท้าควรใหญ่เพียงพอที่จะใส่รองเท้ากีฬา มีรองเท้าใส่ภายในหลายชนิด มีสี เช่น สีชมพู สีฟ้า ฯลฯ หลีกเลี่ยงรองเท้าใส่ภายในทำให้เดินไม่สะดวกสบายหรือใหญ่เกินไป สามารถซื้อรองเท้าจากร้าน ขายรองเท้าหรือร้านเครื่องเขียนหน้าโรงเรียน (ไม่ต้องใช้กระเป๋าใส่รองเท้าหากนักเรียนเก็บรองเท้าใส่ภายในไว้ในล็อคเกอร์)
ข้อมูลที่มีประโยชน์
สิ่งที่ควรเรียนรู้ก่อนเริ่มเปิดเรียน
  • เขียนชื่อโรงเรียนและการอ่านออกเสียง
  • เขียนชื่อตนเอง และชื่อของสมาชิกในครอบครัว
  • พยัญชนะและสระภาษาเกาหลี
  • ตัวเลขง่ายๆ (1 – 10)
  • การใช้ดินสอ ดินสอสี กรรไกร และยางลบ
  • วาดวงกลม เส้นแนวนอน และเส้นแนวตั้ง โดยใช้ดินสอระบายสี
  • ชื่อสี
  • จำแนกสิ่งของของตนเองจากสิ่งของของผู้อื่น
  • ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้าน รวมถึงวิธีการโทรและรับโทรศัพท์
  • แนวปฏิบัติพื้นฐานในการรับประทานอาหาร

05การแนะแนวเพื่อช่วยการปรับตัวเข้ากับชีวิตในโรงเรียนในช่วงแรก

สร้างความประทับใจในโรงเรียน
  • เด็กบางคนอาจหวาดกลัวโรงเรียน จึงควรให้พวกเขาทราบว่าโรงเรียนเป็นที่ที่สนุก โดยพาเด็กไปเยี่ยมโรงเรียนและเดิน รอบโรงเรียน
  • บอกกฎของโรงเรียนล่วงหน้า
  • บอกว่าที่โรงเรียนมีเพื่อนหลายคน
ครู ผู้ให้ความช่วยเหลือเมื่ออยู่ที่โรงเรียน
  • บอกเด็กว่าครูเป็นคนที่คอยบอกเด็กว่า พวกเขาต้องการอะไร และพวกเขาต้องรู้สิ่งใด
  • บอกเด็กว่าครูชอบเด็กแบบไหน (เด็กที่รักษากฎ สัญญา ฯลฯ)
จัดการด้วยตัวเอง
  • เขียนรายการสิ่งของให้แก่เด็ก และให้เด็กใส่ในกระเป๋าสะพายหลังตามลำดับ ให้เด็กฝึกจัดของที่ใช้ในโรงเรียนและกระเป๋า สะพายหลัง ให้เด็กทำด้วยตนเอง (ล้างหน้า จัดของตนเอง ใช้ห้องน้ำ ฯลฯ) ไปโรงเรียนพร้อมสุขภาพที่ดี
ตรวจฟัน ตา หู ฯลฯ และดูแลเมื่อเจ็บป่วย
  • รับฟันตาหู ฯลฯ การตรวจสอบและได้รับการรักษาอาการป่วยล่วงหน้าใด ๆ
  • ควรแจ้งให้ครูประจำชั้นทราบล่วงหน้าหากเด็กแพ้อาหารหรือป่วย (แพ้นม ผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้ ลำไส้อักเสบ ฯลฯ)
วิธีไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
  • ควรเดินไปโรงเรียน ตรวจสอบเส้นทางไปโรงเรียน
  • เดินบนถนนด้านซ้ ย ใช้ทางม้าลาย และเข้าใจสัญญาณจราจรเพื่อเดินทางไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
  • ขึ้นรถประจำทางอย่างเป็นระเบียบ
  • อย่าเดินหน้าหรือหลังรถประจำทางหลังลงจากรถประจำทาง
  • ข้ามถนนโดยใช้สะพานลอย หรืออุโมงค์ใต้ดินในบริเวณที่มีสะพานลอยหรืออุโมงค์ใต้ดิน
  • อย่าวิ่งข้ามทางม้าลาย
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ควบคุมจราจร
  • กลับไปยังตำแหน่งเดิมหากสัญญาณไฟเปลี่ยนเมื่อเริ่มข้ามถนน ข้ามถนนอย่างรวดเร็วหากเลยเส้นตรงกลาง
ข้อมูลที่มีประโยชน์
ความช่วยเหลือด้านการทำกิจกรรมหลังเลิกเรียน

สนันสนุนบริการเลี้ยงเด็กและการศึกษาหลังเลิกเรียนแทนพ่อแม่ในเวลานอกเหนือจากคาบเรียนปกติ โดยช่วยการเรียน·กิจกรรมหลังเลิกเรียนและสอนการบ้านของนักเรียนประถม ผ่านชั้นเรียนหลังเลิกเรียน(ห้องเรียนนึลบมประถม), ศูนย์เลี้ยงเด็กในท้องถิ่น, โรงเรียนหลังเลิกเรียนของเยาวชน, ศูนย์ทาฮัมเกทลบม, การเลี้ยงเด็กหลังเลิกเรียน(สิ่งอำนวยความสะดวกดูแลเด็ก) เป็นต้น โดยเริ่มจากเด็กซึ่งเรียนในโรงเรียนประถม กรณีของครอบครัวที่มีสถานะทางการเงินยากลำบาก ก็สามารถขอคำปรึกษาเพื่อใช้บริการหน่วยงานเหล่านี้ฟรี

ข้อมูลที่มีประโยชน์
ศูนย์เลี้ยงเด็กและศูนย์ให้บริการด้านการศึกษาหลังเลิกเรียน
ศูนย์เลี้ยงเด็กและศูนย์ให้บริการด้านการศึกษาหลังเลิกเรียน
แผนก กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ กระทรวงความเท่าเทียมกันทางเพศและครอบครัว
รายชื่อโครงการ โรงเรียนนึลบม
※ในปี ’24~’25 สนันสนุนในมาตรฐานของชั้นเรียนหลังเลิกเรียนและการดูแลเด็กที่มีอยู่เดิม แก่ชั้นปีที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายรับสมัครโดยเฉพาะด้วยเช่นกัน
ห่วงใยดาฮัมเก ศูนย์เด็กภูมิภาค สถาบันดูแลเด็กหลังเลิกเรียน
เป้าหมายสนับสนุน นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีความประสงค์
※กลุ่มเป้าหมายรับสมัครโดยเฉพาะในแต่ละปี
(’24) ประถมปีที่ 1 → (’25) ประถมปีที่ 1~2 → (’26) นักเรียนประถมทั้งหมด
อายุต่ำกว่า 6-12 ปี ต่ำกว่า 18 สถาบันดูแลเด็กหลังเลิกเรียน
เกณฑ์การสมัคร
(รายได้)
นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีความประสงค์
(ไม่มี)
ครอบครัวที่ทำงาน
(ไม่มี)
ผู้ด้อยโอกาส
(น้อยกว่า 100% ของรายได้เฉลี่ย)
การสนับสนุนดูแลผู้ด้อยโอกาสก่อน
ประเภทการสนับสนุน (’24) โปรแกรมประถม 1 แบบเฉพาะ ให้บริการฟรี 2 ชั่วโมงทุกวัน
(’25) ประถมปีที่ 1~2
ค่าใช้จ่าย
(การเข้าร่วมโปรแกรม ต่างๆ ภายใน 100,000 วอน, ค่า ขนมขบเคี้ยวจ่ายแยกต่างหาก)
ฟรี
(จ่ายตามรายได้ ภายใน 50,000 วอน)
เวลา
ดำเนินการ
ภาคเรียน ตอนเช้าก่อนคาบเรียนปกติ, จนถึงเวลาที่ต้องการหลังคาบเรียนปกติ
(นานที่สุดถึง 20:00 น.)
14~19น. 14~19น. หลังเลิกเรียน -21: 00 น.
วันหยุด อิสระตามเงื่อนไข 09~18น. ดำเนินการ 8 ชั่วโมง 12-17 น. ตามเงื่อนไขส่วนตัว
เนื้อหาสนับสนุน จัดโปรแกรมแบบเฉพาะที่มีคุณภาพ การดูแลหลังเลิกเรียนการสนับสนุนโปรแกรม ฯลฯ ให้ความคุ้มครอง, การศึกษา
สนับสนุนทางอารมณ์, การเชื่อมต่อกับชุมชน ฯลฯ
กิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้,อาหารกลางวันและการให้คำปรึกษา ฯลฯ
ข้อมูลที่มีประโยชน์
‘อีฮักซึบทอ’

เว็บไซต์อีเลิร์นนิง ‘อีฮักซึบทอ’ ได้นำเสนอเนื้อหาสนับสนุนหลักสูตรปกติสำหรับการเรียนการสอน นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษา ปีที่ 3 , สื่อการสอนการเรียนรู้, การประเมินบททดสอบ ฯลฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครูอาจารย์จะเปิดชั้นเรียนออนไลน์, นักเรียนสามารถเรียนด้วยตัวเองได้ทุกที่ ด้วยชั้นเรียนทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

สามารถใช้งานได้ตามเงื่อนไข “KOGL (ลิขสิทธิ์เปิดเผยซอร์ซโค้ดของเกาหลี) ประเภท 4: ระบุแหล่งซอร์ซโค้ด+ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์+ห้ามทำการเปลี่ยนแปลง”