ศูนย์โทรศัพท์ Danuri
1577-1366
การโทรให้คำปรึกษาครอบครัว
1577-4206
한국생활안내 정보더하기 사이트로 이동

การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

  • Home
  • การศึกษาสำหรับบุตร
  • การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

โรงเรียนมัธยมต้นมีหลักสูตร 3 ปี จะมีการมอบหมายให้เข้าเรียนโดยทำการ จับฉลากตามภูมิภาคและกลุ่มโรงเรียน, กรณีในพื้นที่ ที่ระยะทางและการเดินทางไม่สะดวก จะมีการมอบหมายให้เข้าเรียนตามเขตโรงเรียนมัธยมที่กำหนดโดยผู้อำนวยการ โรงเรียนมัธยมต้นเป็นการศึกษาภาคบังคับ เช่นเดียวกับโรงเรียนประถมศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย, กรณีที่ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียน อาจถูกปรับได้

01เนื้อหาในหลักสูตร

หลักสูตรมัธยมต้นจะขึ้นอยู่กับผลการเรียนของระดับประถมศึกษา การพัฒนาทักษะพื้นฐานและการเรียนรู้ ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของนักเรียน เน้นการปลูกฝังความเป็นพลเมืองดีและระบอบประชาธิปไตย โดยนักเรียนจะต้องเรียน 8 วิชาต่อภาคการศึกษา
วิชามีดังต่อไปนี้

รายละเอียดการศึกษา
ชั้นเรียน (หมวด) ชั่วโมงเรียน ของนักเรียนระ ดับชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 1 ถึง 3 เนื้อหาการเรียนรู้ที่สำคัญ
ภาษาเกาหลี 442 ฟัง พูด อ่าน เขียน ไวยากรณ์ วรรณคดี
สังคมศึกษา
(รวมถึงประวัติศาสตร์) และจริยธรรม
510 การเมือง, กฎหมาย, ภูมิศาสตร์, ประวัติศาสตร์, ความมีจริยธรรม เป็นต้น
คณิตศาสตร์ 374 ตัวเลขและการคำนวณ ตัวหนังสือและสูตร ฟังก์ชั่น เรขาคณิต ความน่าจะเป็นและสถิติ
วิทยาศาสตร์
อุตสาหกรรมศิลป์ และ
ศาสตร์แห่งครัวเรือน /สารสนเทศ
680 ความแข็งแกร่งและการออกกำลังกาย, สสาร, ชีววิทยา, โลกของเรา, ครอบครัว การใช้เทคโนโลยี , วัฒนธรรมสารสนเทศ เป็นต้น
พลศึกษา 272 สุขภาพ, ความท้าทาย, การแข่งขัน, การแสดงออก, ความปลอดภัย
ศิลปะ
(ดนตรี วิจิตรศิลป์)
272 การแสดงออก การมองเห็นคุณค่า และแนวทางชีวิต ประสบการณ์ การแสดงออก การมองเห็นคุณค่า
ภาษาอังกฤษ 340 การฟัง, การพูด, การอ่าน, การเขียน
วิชาเลือก 170 ตัวอักษรจีน, สิ่งแวดล้อม, ภาษาต่างประเทศในชีวิตประจำวัน(ภาษาเยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปน, จีน, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, อาหรับ, เวียดนาม), สุขอนามัย, ทิศทางของชีวิตและอาชีพ เป็นต้น

02กิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์สร้างสรรค์

กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมพิเศษนอกเหนือวิชาเรียนซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ 4 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมอิสระ, กิจกรรมชมรม, กิจกรรมอาชีพ, กิจกรรมอาสา ซึ่งแต่ละโรงเรียน สามารถปรับความยืดหยุ่นได้ ตามความเหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก
และความสอดคล้องกับความต้องการของหลักสูตร รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในโรงเรียนชั้นมัธยมต้นมีดังต่อไปนี้

กิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์สร้างสรรค์
ขอบเขต กิจกรรม เป้าหมายของการอบรม
กิจกรรมอิสระ
  • กิจกรรมทำด้วยตัวเอง∙ปรับตัว
  • กิจกรรมหัวเรื่องสร้างสรรค์ ฯลฯ
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี, ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างเสรีและสมเหตุสมผล, เสริมสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายแขนง เป็นต้น
กิจกรรมชมรม
  • กิจกรรมศิลปะและกีฬา
  • กิจกรรมวิชาการและวัฒนธรรม
  • กิจกรรมกลุ่มสำหรับเยาวชน
  • กิจกรรมฝึกปฏิบัติงานจริง เป็นต้น
การสร้างมุมมองทางศิลปะ, การพัฒนาจิตใจและร่างกายที่ดี, การสำรวจและทักษะการแก้ปัญหา, การสำรวจวัฒนธรรมต่างๆและทำความเข้าใจ, บ่มเพาะทักษะความเป็นผู้นำทางสังคม
กิจกรรม อาสาสมัคร
  • กิจกรรมช่วยเหลือเพื่อนบ้าน
  • กิจกรรมปกป้องสิ่งแวดล้อม
  • กิจกรรมแคมเปน ฯลฯ
ฝึกฝนการเป็นอาสาสมัคร ผ่านทักษะและงานอดิเรกของนักเรียน
กิจกรรมอาชีพ
  • กิจกรรมเข้าใจตัวเอง
  • กิจกรรมค้นหางานอาชีพในอนาคต
  • กิจกรรมวางแผนงานอาชีพในอนาคต ฯลฯ
เสริมสร้างการมองโลกในแง่ดี, การสำรวจอาชีพ
ข้อมูลที่มีประโยชน์

"ความรุนแรงในโรงเรียน" หมายถึง พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย จิตใจหรือทรัพย์สิน เนื่องมาจาก การทำร้ายร่างกาย, การใช้ความรุนแรง, การกักขัง, การข่มขู่, ยาเสพติด·การล่อลวง, การทำลายชื่อเสียง·ดูถูก, การคุกคาม, การขู่บังคับให้ทำตามคำสั่งและความรุนแรงทางเพศ, การกลั่นแกล้ง, การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ เป็นต้น ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนทั้งในและนอกโรงเรียน นอกจากนี้ พฤติกรรมทุกอย่างที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย จิตใจหรือทรัพย์สิน ล้วนนับเป็นความรุนแรงในโรงเรียนได้ทั้งสิ้น

สัญญาณความรุนแรงในโรงเรียนที่บ้าน
  • สีหน้าอึมครึมและไร้เรี่ยวแรงกว่าปกติ
  • มีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงและอ่อนไหวกว่าปกติ แม้แต่กับเรื่องเล็กน้อย เช่น ตกใจแค่กับการถูกเรียกชื่อ
  • เกลียดหรือกลัวการไปโรงเรียน
  • ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล หรือขอให้พาไปย้ายโรงเรียน
  • มีบาดแผลหรือรอยช้ำตามร่างกายเป็นประจำ และอยากอยู่คนเดียว
  • มีการขีดเขียนที่แสดงถึงความสิ้นหวัง(เช่น อยากตาย) หรืออาฆาตแค้น (เช่น ตายไปซะ)
สัญญาณความรุนแรงในโรงเรียนที่โรงเรียน
  • ไม่มีการโต้กลับ แม้จะถูกเพื่อนนินทาว่าร้าย
  • ถูกทอดทิ้งหรือกีดกันเมื่อมีกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมต่างๆ ในชั้นเรียน
  • ช่วงพักเบรคหรือพักกลางวัน มักหลีกเลี่ยงเพื่อนๆ และอยู่ในพื้นที่ที่มีแต่ตนเอง(เช่น ห้องน้ำ)
  • เสื้อผ้าชำรุดเสียหาย หรือมักจะมีอุปกรณ์การเรียน, ของส่วนตัวหายบ่อยๆ
  • พยายามไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนหรือกิจกรรมที่ทำเป็นกลุ่ม
  • จำนวนครั้งของการมาสาย ออกก่อนเวลา และขาดเรียน เพิ่มมากขึ้นโดยไม่มีเหตุผลพิเศษ
สัญญาณการตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์
  • ตรวจสอบอุปกรณ์สื่อสารบ่อยครั้งด้วยสีหน้าไม่สบายใจและมีปฎิกิริยาตอบสนองอย่างอ่อนไหว
  • ถูกโจมตีทางจิตใจซ้ำๆ ในห้องแชทรวม
  • ขอค่าขนมเพิ่มมากขึ้น หรือมีค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ออนไลน์มากเกินไป
  • แสดงความไม่ชอบอย่างรุนแรงและมีปฎิกิริยาตอบสนองอย่างอ่อนไหว หากพ่อแม่จับหรือดูอุปกรณ์สื่อสารของตน
  • ดูตื่นตระหนกหรือทุกข์ทรมานใจ หลังจากดูข้อความหรือแชท
  • ถูกเรียกด้วยชื่อเล่นที่ดูหมิ่นหรือคำหยาบมากกว่าจะเรียกชื่อจริงๆ หรือโดนโพสเหน็บแนบหรือใส่ร้ายจำนวนมากบนโลกไซเบอร์
  • สเตตัสหรือบรรยากาศรูปภาพของบัญชีโซเชียล จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นหดหู่หรือเป็นไปในแง่ลบ
  • ระยะเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารมากเกินไป
  • คนที่ไม่สนิทรู้เรื่องเล่าหรือข่าวลือของลูก
  • จู่ๆ ก็หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือลบบัญชีโซเชียล
วิธีแจ้งความรุนแรงในโรงเรียน
  • ในโรงเรียน
    • กรณีที่นักเรียนที่เป็นเหยื่อ, นักเรียนที่เป็นผู้พบเห็น, ผู้ปกครอง เป็นต้น แจ้งต่ออาจารย์โดยตรง
    • รับรู้การใช้ความรุนแรงหรือถูกใช้ความรุนแรง ได้ระหว่างการให้คำปรึกษารายบุคคลของครูกับนักเรียน
    • ใช้กล่องแจ้งการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนที่ถูกติดตั้งไว้ในโรงเรียน
    • ใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงหรือถูกใช้ความรุนแรงในโรงเรียน
  • นอกโรงเรียน
    • 112 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    • ระบบแจ้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ (ecrm.police.go.kr)
    • 117 ศูนย์รับแจ้งการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน (โทรได้ทั่วประเทศโดยไม่ต้องกดรหัสพื้นที่ 117 (ข้อความ) #1017)
    • แจ้งผ่าน Safety Dream (หรือ คำค้นหา 117)
    • แจ้งโดยส่งข้อความหรือโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำโรงเรียนที่รับผิดชอบโรงเรียนที่เกี่ยวข้อง

(1)โรงเรียน

หน่วยงานรับผิดชอบความรุนแรงในโรงเรียน

หากเรื่องที่บุตรถูกใช้ความรุนแรง ได้รับการแจ้งไปยังหน่วยงานดูแลความรุนแรงในโรงเรียนที่อยู่ภายในโรงเรียน หน่วยงานจะตรวจสอบการใช้ความรุนแรงหรือถูกใช้ความรุนแรงเบื้องต้นก่อน จากนั้นจะรายงานเรื่องไปยังสำนักงานศึกษาธิการภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากนั้น 'พนักงานสอบสวนการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน' จากศูนย์ลดความรุนแรงในโรงเรียนของสำนักงานศึกษาธิการ จะไปพบนักเรียนและผู้ปกครองของนักเรียน เป็นต้น เพื่อตรวจสอบความจริงของคดี
และเมื่อได้รับผลการตรวจสอบจากพนักงานสอบสวนแล้ว หน่วยงานจะพิจารณาว่าผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถแก้ปัญหาเองได้หรือไม่ หากมีคุณสมบัติครบถ้วนในการแก้ปัญหาเอง และนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้ปกครองให้การยินยอม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ แต่หากผู้อำนวยการโรงเรียนไม่มีคุณสมบัติในการแก้ปัญหาเอง หรือนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้ปกครองไม่ให้การยินยอม โรงเรียนจะร้องขอการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณานโยบายรับมือความรุนแรงในโรงเรียน ที่ตั้งอยู่ในสำนักงานศึกษาธิการ

  • ศูนย์ลดความรุนแรงในโรงเรียน : หน่วยงานในสำนักงานศึกษาธิการที่รับผิดชอบหน้าที่ช่วยเหลือแบบองค์รวม เช่น ฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนที่เป็นเหยื่อและนักเรียนที่ใช้ความรุนแรงในโรงเรียน, ฟื้นฟูนักเรียนที่เป็นเหยื่อ, ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับนักเรียนที่เป็นเหยื่อ เป็นต้น
  • พนักงานสอบสวนการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน : ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ·ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียน ซึ่งศึกษาธิการ(หรือ อธิบดีศึกษาธิกา) แต่งตั้ง・มอบหมาย เพื่อให้ตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับการกระทำหรือถูกกระทำในคดีความรุนแรงในโรงเรียน
วีคลาส (Wee) (ฝ่ายที่ปรึกษาของโรงเรียน)

ฝ่ายที่ปรึกษา ระดับ 1 ก่อตั้งอยู่ในโรงเรียน สำหรับนักเรียนที่ประสบกับปัญหาชีวิตในโรงเรียน เนื่องจากเหตุผลหลายประการ บริการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านจิตวิทยาเพื่อการปรับตัวในโรงเรียน

(2)คณะกรรมการโรงเรียน(สนับสนุน)

คณะกรรมการพิจารณาแผนรับมือกับความรุนแรงในโรงเรียน

คณะกรรมการพิจารณาการแผนรับมือกับความรุนแรงในโรงเรียน เป็นคณะกรรมการตามกฎหมายในสำนักงานการศึกษา มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับมือและการป้องกันความรุนแรงในโรงเรียน คณะกรรมการพิจารณา จะพิจารณาการป้องกันและมาตรการต่อต้านความรุนแรงในโรงเรียน, การคุ้มครองเหยื่อ, การลงโทษตักเตือนผู้กระทำผิดและการฝึกอบรมในทางที่เหมาะสม, พิจารณาเรื่องการระงับข้อพิพาทระหว่างเหยื่อและผู้กระทำผิด

วีเซ็นเตอร์(Wee) (ศูนย์สนับสนุนการให้คำปรึกษานักเรียน)

หน่วยงานให้คำปรึกษา ระดับ 2 ก่อตั้งในสำนักงานสนับสนุนการศึกษา เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหา ที่ยากต่อการรักษาและชี้นำทางจากโรงเรียน บริการวินิจฉัย รักษาและให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพ

วีสคูล (Wee)

หน่วยงานให้คำปรึกษา ระดับ 3 ก่อตั้งในสำนักงานการศึกษา ในเขตเมืองและจังหวัด
สำหรับนักเรียนที่เผชิญวิกฤติรุนแรงเช่นการถูกระงับโรงเรียน ต่างๆ ที่ต้องการรักษาและการศึกษาระยะยาว
โปรแกรมอบรมทางเลือกโรงเรียนประจำต่างๆ บริการให้คำปรึกษา การรักษาและการอบรมที่หลากหลาย

(3)โครงการและกลุ่มสังคมสงเคราะห์

ทีมช่วยเหลือ SOS จากความรุนแรงในโรงเรียน

มูลนิธิต้นไม้สีเขียว ได้สร้างทีมช่วยเหลือ SOS จากความรุนแรงในโรงเรียน, การจัดหาโปรแกรมที่หลากหลายเพื่อการเยียวยา นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำผิด ครอบครัว จากการได้รับความรุนแรงในโรงเรียน, การป้องกันความรุนแรงในโรงเรียนและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรงเรียน โทร (☎1588-9128) หรือทางออนไลน์ (www.btf.or.kr)

  • ศูนย์ผสานความช่วยเหลือ จากความรุนแรงในโรงเรียน : สนับสนุนการเชื่อมโยงกับสถาบันเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในโรงเรียน ต่างๆ สนับสนุนการบริการแบบครบวงจร เช่น จิตวิทยา, การแพทย์, กฎหมาย, ทุนการศึกษา ฯลฯ สำหรับนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำผิด
  • ศูนย์ให้คำปรึกษาการรักษาเฉพาะด้าน จากความรุนแรงในโรงเรียน : การให้คำปรึกษา / การรักษาทางจิตวิทยา, การให้คำปรึกษาสัมภาษณ์, การให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม, การให้คำปรึกษาบนไซเบอร์, การให้คำปรึกษาการเข้าเยี่ยม, แคมป์ปิ้ง, การอบรม ฯลฯ สำหรับนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำผิด
  • ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและความขัดแย้ง จากความรุนแรงในโรงเรียน : เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและการเยียวยาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียน โปรแกรมไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งและสร้างความปรองดอง, การฝึกสอนและการจัดการความขัดแย้ง, การให้คำปรึกษา, การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ต่างๆ
    สำหรับนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำผิด
คำปรึกษาวัยรุ่น 1388

คำปรึกษาวัยรุ่น 1388 คือบริการ ที่ให้คำปรึกษา โดยกระทรวงความเท่าเทียมกันทางเพศและครอบครัว เป็นผู้ดำเนินการอยู่ คุณสามารถรับคำปรึกษาเกี่ยวกับ ความกังวลต่างๆ จากปัญหาความเสียหายความรุนแรงหรือปัญหามิตรภาพในโรงเรียนฯลฯ กับอาจารย์ที่ปรึกษามืออาชีพ ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ต่อปี โทร (☎1388), ทางออนไลน์ (www.cyber1388.kr), สามารถใช้ระบบข้อความ, KakaoTalk (# 1388) ได้

ซังดามี แซม

ซังดามี แซม คือบริการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาผ่านมือถือ ที่สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษา และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียน โดยการประสานงานระหว่าง กระทรวงศึกษาธิการ, ธนาคาร เคบี กุกมิน, คาคาโอ, สมาคมการแพทย์แบบเปิด โดยเข้าไปที่ ‘แอปคาคาโอท็อล์ค’ ค้นหาคำว่า ‘ซังดามีแซม’ แล้วกดเพิ่มเพื่อน จากนั้นเมื่อคุณส่งข้อความไป ก็จะสามารถรับคำปรึกษากับที่ปรึกษามืออาชีพได้ (เวลาที่สามารถรับคำปรึกษา : วันธรรมดา 10: 00 ~ 24: 00, เสาร์อาทิตย์ / ไม่รวมวันหยุด ) การให้คำปรึกษาระหว่าง นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อและผู้กระทำความรุนแรงในโรงเรียน และนักเรียนที่มีความเสี่ยงสูง โดยการคัดเลือกไม่เกิน 10 คนต่อเดือน สนับสนุนค่าใช้จ่ายการรักษาทางจิตวิทยา ไม่เกิน 800,000 วอนต่อเดือน

  • 상다미쌤
  • 상다미쌤
ข้อมูลที่มีประโยชน์
‘วี (Wee)’ สำหรับนักเรียนที่ปรับตัวยากในโรงเรียนหรือกำลังประสบวิกฤติ

วีเป็นชื่อย่อของ “WE + Education”, หรือ “WE + Emotion”

  • Safe-net ระดับ 1 วีคลาส (Wee)
    • ก่อตั้งในสำนักงานสนับสนุนการศึกษาตามเขตภูมิภาค
    • บริการสนับสนุน การวินิจฉัยเฉพาะทางต่อนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เพื่อการให้คำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม
    • นักเรียนทั่วไปและนักเรียนที่ไม่ปรับตัวในโรงเรียน ((ความรุนแรงในโรงเรียน, เสี่ยงถูกระงับการเรียน, การกลั่นแกล้ง, ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล, การเสพติดสื่อ, การประพฤติมิชอบ ฯลฯ)
  • Safe-net ระดับ 2 วีเซ็นเตอร์ (Wee)
    • ก่อตั้งในสำนักงานสนับสนุนการศึกษาตามเขตภูมิภาค
    • บริการสนับสนุน การวินิจฉัยเฉพาะทางต่อนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เพื่อการให้คำปรึกษาและการรักษาที่เหมาะสม
    • นักเรียนที่ต้องการคำปรึกษาและนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่ยากต่อการรักษาและชี้นำทางจากโรงเรียน
  • Safe-net ระดับ 3 วีสคูล (Wee)
    • ก่อตั้งในสำนักงานการศึกษา เขตเมืองและต่างจังหวัด
    • การอบรมประจำสำหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องการรักษาจากระยะกลางไปจนถึงระยะยาว
    • นักเรียนที่อยู่ในช่วงวิกฤต ที่ต้องการรักษาจากระยะกลางไปจนถึงระยะยาว
สามารถใช้งานได้ตามเงื่อนไข “KOGL (ลิขสิทธิ์เปิดเผยซอร์ซโค้ดของเกาหลี) ประเภท 4: ระบุแหล่งซอร์ซโค้ด+ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์+ห้ามทำการเปลี่ยนแปลง”